สารบัญ
- บทนำ
- ระบบการตรวจร่างกายทหารและโรคที่ได้รับการยกเว้น
- ศิลปินที่เคยได้รับการยกเว้นจากโรคทางจิตเวช
- เบื้องหลัง “หมู่บ้านโรคจิต” – พบเพียง 1 คนป่วยจริง
- การปลอมแปลงอาการทางร่างกาย – ใช้ยาเพิ่มความดันเพื่อหนีทหาร
- ผลข้างเคียงของยากลุ่มเพิ่มความดันโลหิต
- ผู้เชี่ยวชาญเตือน “หลีกเลี่ยงยา-เลิกโกง”
- บทสรุป – หนีทหารไม่คุ้มเสี่ยง
- Q&A
บทนำ
กรณีศิลปินและคนดังถูกเปิดโปงว่าหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารกำลังเป็นประเด็นร้อนในไต้หวัน ดร.หยาง ฉงไฉ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชและผู้อำนวยการคลินิกหยางฉงไฉ เปิดเผยว่า KUBET ตนเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกจิตเวชในกองทัพ และเคยเจอเหตุการณ์ “แปลกประหลาดที่สุด” ในชีวิตราชการ คือในหมู่บ้านหนึ่งมีชายวัยเกณฑ์ไม่ถึง 30 คน แต่ทั้งหมดกลับมีใบรับรองแพทย์ระบุว่า “ป่วยเป็นโรคจิตเภท (Schizophrenia)” พร้อมกัน KUBET ซึ่งขัดต่อหลักระบาดวิทยาโดยสิ้นเชิง
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ประเด็นข่าว | ศิลปินและคนดังหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารในไต้หวัน |
ผู้ให้ข้อมูล | ดร.หยาง ฉงไฉ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช และผู้อำนวยการคลินิกหยางฉงไฉ |
ประสบการณ์ของแพทย์ | เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกจิตเวชในกองทัพ |
เหตุการณ์แปลกประหลาด | ในหมู่บ้านหนึ่งมีชายวัยเกณฑ์ไม่ถึง 30 คน แต่ทั้งหมดมีใบรับรองแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคจิตเภท (Schizophrenia) |
ความเห็นทางวิชาการ | ขัดต่อหลักระบาดวิทยาโดยสิ้นเชิง |
ระบบการตรวจร่างกายทหารและโรคที่ได้รับการยกเว้น
ดร.หยางอธิบายว่า ชายวัยเกณฑ์ทหารทุกคนต้องเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อจัดระดับ KUBET ซึ่งแบ่งเป็น ยกเว้นการเกณฑ์, เข้ารับราชการทดแทน, ต้องเข้ารับราชการทหารเต็มรูปแบบ ในส่วนของโรคจิตเวช ผู้ที่ได้รับการยกเว้นมักเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการว่าเป็น KUBET โรคจิตเภท (Schizophrenia), โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder), สมองบาดเจ็บหรือความผิดปกติทางสมอง, ภาวะสติปัญญาต่ำหรือบกพร่อง, โรคออทิสติก, กลุ่มอาการทูเร็ตต์ (Tourette’s Syndrome), โรคประสาทเรื้อรังที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน, โรคซึมเศร้ารุนแรง โดยต้องมีการรักษาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการประเมินจากแพทย์ทหาร KUBET จึงจะได้รับการยกเว้น
ศิลปินที่เคยได้รับการยกเว้นจากโรคทางจิตเวช
มีรายงานจากชาวเน็ตว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา KUBET ศิลปินหลายคนในวงการบันเทิงได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหาร เช่น Freddy และ โจวอวี๋หมิน (Vic Chou) เนื่องจากมีภาวะซึมเศร้า โดย Freddy ต้องยื่นคำร้องถึง 3 ครั้งจึงได้รับอนุมัติ ดร.หยางเสริมว่า หากผู้ป่วยมีใบรับรองแพทย์ยืนยันและผ่านการตรวจยืนยันจากแพทย์ทหาร 6 เดือนหลังจากนั้นก็สามารถได้รับการยกเว้น KUBET เพราะโรคทางจิตเวชไม่มีการจัดประเภทสำหรับ “ราชการทดแทน”
เบื้องหลัง “หมู่บ้านโรคจิต” – พบเพียง 1 คนป่วยจริง
ในกรณี “หมู่บ้านที่มีชายวัยเกณฑ์ป่วยจิตเภททั้งหมู่บ้าน” ดร.หยางเล่าว่า เขาได้ใช้เทคนิคการสนทนาแบบสะกดจิต (Hypnotic Interview) KUBET เพื่อให้ผู้ถูกตรวจลดการป้องกันตนเองและเปิดเผยความจริงที่อยู่ในจิตใต้สำนึก สุดท้ายพบว่ามีเพียง 1 คนเท่านั้นที่ป่วยจริง ส่วนคนอื่นได้รับการ “สอนให้แกล้งพูด” ว่ามีอาการหลอนหรือคิดเพ้อ เพื่อให้ได้รับใบรับรองทางจิตเวชและหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร

การปลอมแปลงอาการทางร่างกาย – ใช้ยาเพิ่มความดันเพื่อหนีทหาร
นอกจากกรณีทางจิตเวช ยังพบว่ามีศิลปิน 12 คน เช่น เฉินป๋อหลิน, เฉินต้าถียน, เฉินหลิงจิ่ว, วิลเลียม , Teddy, อาฮู่, เฉินซิ่นเหว่ย, หวงป๋อซือ, ซูเหว่ย (Energy), ซิวเจี๋ยข่าย, เสี่ยวเจี๋ย, และ หลี่ฉวน ถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงข้อมูลสุขภาพ KUBET โดยเฉพาะ “ปลอมอาการความดันโลหิตสูง” เพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมชื่อดัง ดร.หลี่ หลงเถิง ระบุว่า หากมีการใช้ “ยาเพิ่มความดันโลหิต” หรือ “ยากระตุ้นระบบประสาท” KUBET เพื่อให้ค่าความดันสูงผิดปกติ ถือว่าอันตรายอย่างมากต่อร่างกาย
ผลข้างเคียงของยากลุ่มเพิ่มความดันโลหิต
พญ.หวัง จื้อชง แพทย์ด้านลดน้ำหนัก อธิบายว่า ยากลุ่มเพิ่มความดันโลหิต (α₁ agonist) เช่น Midodrine (ไมโดดริน), Amezinium (อะเมซิเนียม), Etilefrine (อีไทลีฟรีน) โดยปกติใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะความดันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคไตหรือผู้ที่ฟอกไต แต่ถ้านำมาใช้กับคนที่มีความดันปกติ จะทำให้ความดันพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เจ็บหน้าอก และอาจเพิ่มโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
ผู้เชี่ยวชาญเตือน “หลีกเลี่ยงยา-เลิกโกง”
ดร.หวัง เว่ยเหยา ผู้อำนวยการคลินิกเต๋อเหว่ย เมืองปั่นเฉียว กล่าวเสริมว่า ยากลุ่ม alpha-agonist สามารถเพิ่มความดันได้จริง แต่ไม่ใช่ยาที่หาซื้อง่าย อีกทั้งการกลั้นหายใจก็อาจทำให้ความดันเปลี่ยนชั่วคราว แต่สามารถตรวจสอบได้ง่ายหากให้ผู้ถูกตรวจพูดคุยหรือวัดซ้ำหลายครั้ง ดังนั้นกรณี “ปลอมความดันสูง” ยังต้องรอการตรวจสอบเพิ่มเติม
บทสรุป – หนีทหารไม่คุ้มเสี่ยง
กรณี “หมู่บ้านจิตเภท” และ “ศิลปินปลอมอาการป่วย” เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาการหลีกเลี่ยงภารกิจรับใช้ชาติที่เกิดขึ้นในสังคม การปลอมแปลงข้อมูลทางการแพทย์ไม่เพียงเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แต่ยังเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะการใช้ยากระตุ้นหรือยาความดันโดยไม่มีการควบคุมจากแพทย์ แพทย์ย้ำว่า “ไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้การทำลายสุขภาพตนเองกลายเป็นทางออก” และขอให้ประชาชนตระหนักว่าการรับใช้ชาติคือหน้าที่ของชายทุกคน การเลือกใช้วิธีโกงเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงภารกิจนั้น อาจต้องแลกด้วยผลเสียที่ยากเกินเยียวยาในอนาคต
Q&A
1. เหตุการณ์ “หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านป่วยโรคจิตเภทพร้อมกัน” เกิดอะไรขึ้นจริง?
ตอบ: พบว่ามีเพียง 1 คนในหมู่บ้านป่วยจริง ส่วนคนอื่นแกล้งอ้างว่าป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร โดยได้รับการสอนให้พูดว่ามีอาการหลอนหรือคิดเพ้อ
2. โรคทางจิตเวชใดบ้างที่สามารถยกเว้นการเกณฑ์ทหารได้?
ตอบ: ได้แก่ โรคจิตเภท (Schizophrenia), โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder), สมองบาดเจ็บหรือความผิดปกติทางสมอง, ภาวะสติปัญญาต่ำ, โรคออทิสติก, กลุ่มอาการทูเร็ตต์ (Tourette’s), โรคประสาทเรื้อรัง, และโรคซึมเศร้ารุนแรง โดยต้องรักษาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการประเมินจากแพทย์ทหาร
3. ศิลปินคนใดบ้างที่เคยได้รับการยกเว้นจากโรคทางจิตเวช?
ตอบ: มี Freddy และ โจวอวี๋หมิน (Vic Chou) ซึ่ง Freddy ต้องยื่นคำร้องถึง 3 ครั้งจึงได้รับอนุมัติ เพราะมีภาวะซึมเศร้าและต้องผ่านการตรวจยืนยันจากแพทย์ทหาร
4. การปลอมแปลงอาการทางร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารมีวิธีใดบ้างและมีความเสี่ยงอย่างไร?
ตอบ: มีกรณีศิลปิน 12 คนปลอมอาการความดันโลหิตสูง โดยใช้ยาเพิ่มความดันหรือยากระตุ้นระบบประสาท ซึ่งหากใช้กับคนปกติอาจทำให้ความดันสูงผิดปกติ เสี่ยงต่อหัวใจเต้นผิดจังหวะ เจ็บหน้าอก และโรคหลอดเลือดสมอง
5. ข้อสรุปและคำเตือนจากแพทย์เกี่ยวกับการหนีทหารคืออะไร?
ตอบ: การปลอมแปลงข้อมูลทางการแพทย์ไม่เพียงเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แต่ยังเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง แพทย์เตือนว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะทำลายสุขภาพตนเองเป็นทางออก การรับใช้ชาติคือหน้าที่ชายทุกคน การโกงเพื่อละเว้นอาจต้องแลกด้วยผลเสียที่ยากเยียวยาในอนาคต
เนื้อหาที่น่าสนใจ: