สารบัญ
- บทนำ
- ทำความเข้าใจติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่
- ทำไมติ่งเนื้อขนาดใหญ่ไม่ควรถูกตัดออกทันที
- ตัวอย่างกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อน
- คำแนะนำของแพทย์
- สรุป
- Q&A
บทนำ
แพทย์เตือน: ระวังความเสี่ยงจากการตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่โดยตรง อดีตสมาชิกสภาไถตง หวังรุ่ยฮัว ซึ่งเคยชนะการเลือกตั้งถึง 7 ครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองไถตง ได้เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา KUBET หลังเข้ารับการผ่าตัดติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่และเกิดภาวะแทรกซ้อน
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
เหตุการณ์ | การเสียชีวิตของอดีตสมาชิกสภาไถตง หวังรุ่ยฮัว |
ประวัติบุคคล | ชนะการเลือกตั้ง 7 ครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองไถตง |
วันที่เกิดเหตุ | 11 ตุลาคม |
สาเหตุ | ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่ในลำไส้ใหญ่ |
ข้อควรระวัง | แพทย์เตือนให้ระวังความเสี่ยงจากการตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่โดยตรง |
ทำความเข้าใจติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่
ติ่งเนื้อ หรือ Polyp เป็นก้อนเนื้อเยื่อที่งอกขึ้นในผนังลำไส้ใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อไม่ร้ายแรง แต่บางกรณีสามารถกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ในอนาคต KUBET การตรวจพบและตัดติ่งเนื้อจึงสำคัญต่อการป้องกันโรค ขนาดติ่งเนื้อและความเสี่ยง: ขนาด < 1 ซม.: สามารถตัดออกได้ง่ายผ่านการส่องกล้อง ขนาด 1–2 ซม.: ต้องระวังในขั้นตอนการตัด เพื่อป้องกันผนังลำไส้บางลง ขนาด > 2 ซม.: การตัดติ่งเนื้อโดยตรงมีความเสี่ยงสูง KUBET เช่น การทะลุของผนังลำไส้ การตกเลือด หรือการติดเชื้อ
ทำไมติ่งเนื้อขนาดใหญ่ไม่ควรถูกตัดออกทันที
นพ. เฉิน หรงเจี้ยน ผู้อำนวยการศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง KUBET โรงพยาบาลมินเซิง อธิบายว่า การตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่ (>2 ซม.) ทำให้ผนังลำไส้บางลง เสี่ยงต่อการทะลุ การตัดติ่งเนื้อหลายชิ้นพร้อมกัน ใช้เวลาผ่าตัดนาน เพิ่มภาระให้ตับและไต การตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่บางครั้งจะเริ่มด้วยการ ตัดชิ้นตัวอย่าง (biopsy) เพื่อตรวจเนื้อเยื่อก่อน ทำให้ลดความเสี่ยง
ตัวอย่างกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อน
ชายอายุ 50 ปี ตรวจพบติ่งเนื้อ 2.5 ซม. ขณะส่องกล้อง แพทย์ตัดติ่งเนื้อออกทั้งหมด หลังผ่าตัดเกิดอาการปวดท้องรุนแรง ตรวจพบผนังลำไส้ทะลุ 0.2 ซม. แพทย์ใช้วิธีผ่าตัดส่องกล้องซ่อมผนังลำไส้ทันที ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ ผู้สูงอายุรายหนึ่ง ตัดติ่งเนื้อที่โรงพยาบาลภายนอก หลังกลับบ้านเกิดอาการท้องอืดและไม่สบายหลายชั่วโมง ส่งโรงพยาบาลช้า จนเกิด ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) กรณีเหล่านี้สะท้อนว่า การตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่มี ความเสี่ยงสูงต่อชีวิต KUBET หากไม่วางแผนและดูแลหลังการผ่าตัดอย่างเหมาะสม

คำแนะนำของแพทย์
ตรวจและประเมินก่อนผ่าตัด สำหรับติ่งเนื้อ > 2 ซม. แพทย์จะพิจารณาตัดชิ้นตัวอย่างก่อน ประเมินจำนวนติ่งเนื้อ หากติ่งเล็กหลายชิ้น KUBET สามารถทยอยตัดเพื่อลดภาระการผ่าตัด เลือกโรงพยาบาลและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ การผ่าตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่ต้องใช้เทคนิคส่องกล้องและมีทีมแพทย์พร้อมรับมือภาวะแทรกซ้อน KUBET สังเกตอาการหลังผ่าตัด ปวดท้องมาก ท้องอืด หรือมีไข้ KUBET ควรรีบพบแพทย์ทันที การดูแลหลังผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
สรุป
การตัดติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่เป็นเรื่องที่ ต้องระมัดระวังตามขนาดและจำนวนติ่งเนื้อ KUBET โดยเฉพาะติ่งขนาดใหญ่ การทำความเข้าใจความเสี่ยงและการเลือกวิธีผ่าตัดอย่างเหมาะสม KUBET สามารถลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยมากขึ้น
Q&A
คำถาม 1: ติ่งเนื้อ (Polyp) ในลำไส้ใหญ่คืออะไร และมีความเสี่ยงอย่างไร
คำตอบ: ติ่งเนื้อคือก้อนเนื้อเยื่อที่งอกขึ้นในผนังลำไส้ใหญ่ ส่วนใหญ่ไม่ร้ายแรง แต่บางกรณีสามารถกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ การตรวจพบและตัดติ่งเนื้อจึงสำคัญต่อการป้องกันโรค
คำถาม 2: ขนาดติ่งเนื้อแต่ละขนาดมีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดอย่างไร
คำตอบ:
- < 1 ซม.: ตัดง่ายผ่านการส่องกล้อง
- 1–2 ซม.: ต้องระวังการตัดเพื่อป้องกันผนังลำไส้บางลง
- 2 ซม.: ตัดโดยตรงมีความเสี่ยงสูง เช่น ผนังลำไส้ทะลุ ตกเลือด หรือการติดเชื้อ
คำถาม 3: ทำไมติ่งเนื้อขนาดใหญ่ (>2 ซม.) จึงไม่ควรถูกตัดออกทันที
คำตอบ: เพราะการตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่ทำให้ผนังลำไส้บางลง เสี่ยงต่อการทะลุ และหากตัดหลายชิ้นพร้อมกันใช้เวลานาน เพิ่มภาระต่ออวัยวะสำคัญ แพทย์บางครั้งเริ่มด้วยการตัดชิ้นตัวอย่างเพื่อลดความเสี่ยง
คำถาม 4: ตัวอย่างภาวะแทรกซ้อนจากการตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่มีอะไรบ้าง
คำตอบ: เช่น ผนังลำไส้ทะลุหลังผ่าตัดต้องซ่อมด่วน หรือผู้สูงอายุเกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเพราะส่งโรงพยาบาลล่าช้า
คำถาม 5: คำแนะนำสำคัญของแพทย์ก่อนและหลังผ่าตัดติ่งเนื้อคืออะไร
คำตอบ: ตรวจและประเมินก่อนผ่าตัด ตัดชิ้นตัวอย่างหากติ่งใหญ่ แยกผ่าตัดติ่งหลายชิ้นเพื่อไม่เพิ่มภาระ เลือกโรงพยาบาลและแพทย์เชี่ยวชาญ ใช้เทคนิคส่องกล้อง และสังเกตอาการหลังผ่าตัด เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
เนื้อหาที่น่าสนใจ: