สารบัญ
- บทนำ
- กาแฟช่วยลดความเสี่ยงนิ่วในไต 3 กลไกหลัก
- กาแฟไม่ใช่อาหารที่มีกรดออกซาลิกสูง
- การเสริมแคลเซียมมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงนิ่วในไต
- ระมัดระวังการเพิ่มส่วนผสมที่มีกรดออกซาลิกสูงในกาแฟ
- คำแนะนำสำหรับกลุ่มต่างๆ
- สรุป
บทนำ
การศึกษาใหม่เผยว่า การดื่มกาแฟดำหรือคาเฟ่ลาเต้ทุกวันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตได้ประมาณ 26% ถึง 32% โดยในบทความที่เผยแพร่บนเพจ “ลดน้ำหนักแพทย์ Xiao Jiejian” แพทย์ได้อธิบายว่า การดื่มกาแฟทุกวันช่วยลดอัตราการเกิดนิ่วในไตลงได้ประมาณ 26% แต่หากมีการเติมส่วนผสมที่มีกรดออกซาลิกสูง เช่น ซอสช็อคโกแลต ผงโกโก้ (มอคค่า) หรือ นมอัลมอนด์ จะทำให้ปริมาณกรดออกซาลิกในเครื่องดื่มเพิ่มสูงขึ้น KUBET ซึ่งอาจทำให้ความเสี่ยงในการเกิดนิ่วเพิ่มขึ้นได้

กาแฟช่วยลดความเสี่ยงนิ่วในไต 3 กลไกหลัก
แพทย์ Xiao Jiejian กล่าวถึงเหตุผล 3 ประการที่กาแฟช่วยลดความเสี่ยงนิ่วในไตได้:
- คาเฟอีนช่วยเพิ่มการขับปัสสาวะ:
คาเฟอีนมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการขับปัสสาวะ KUBETซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณปัสสาวะและช่วยเจือจางความเข้มข้นของแร่ธาตุต่างๆ ในปัสสาวะ จึงช่วยป้องกันการตกตะกอนของผลึกในปัสสาวะ - คาเฟอีนช่วยลดการเกาะตัวของผลึกออกซาลิก:
คาเฟอีนมีผลต่อการทำงานของตัวรับอะดีโนซีนในไต KUBETซึ่งช่วยลดโอกาสที่ผลึกออกซาลิกจะเกาะติดกับเซลล์เยื่อบุของไต - กาแฟมีกรดซิตริก (Citric acid):
กรดซิตริกในกาแฟทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งการเกิดนิ่วในปัสสาวะ KUBETซึ่งสามารถจับกับไอออนแคลเซียมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลึก
กาแฟไม่ใช่อาหารที่มีกรดออกซาลิกสูง
แพทย์ Xiao Jiejian อธิบายว่า ประมาณ 70% ของนิ่วในไตเป็นนิ่วที่เกิดจากออกซาลิกแคลเซียม และอาหารที่มีกรดออกซาลิกสูงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่ว อย่างไรก็ตาม กาแฟดำหนึ่งถ้วย (ประมาณ 240 มล.) มีกรดออกซาลิกเพียง 1-2 มิลลิกรัม ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับอาหารทั่วไป KUBET เช่น สปาแนกที่ต้ม (ครึ่งถ้วย) มีกรดออกซาลิกประมาณ 755 มิลลิกรัม มันฝรั่งอบหนึ่งลูกประมาณ 100 มิลลิกรัม หรือ ผงโกโก้ 4 ช้อนชา ประมาณ 67 มิลลิกรัม ดังนั้น กาแฟจึงจัดเป็นเครื่องดื่มที่มีกรดออกซาลิกต่ำและไม่จำเป็นต้องจำกัดการบริโภค
การเสริมแคลเซียมมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงนิ่วในไต
หลายคนเข้าใจผิดว่า KUBETผู้ที่เป็นนิ่วในไตจากออกซาลิกแคลเซียมควรหลีกเลี่ยงการทานแคลเซียม แต่ความจริงแล้ว การทานแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาหนึ่งพบว่า การทานแคลเซียมในปริมาณปกติ (1200 มิลลิกรัม) ช่วยลดอัตราการเกิดนิ่วในไตได้ถึง 51% เมื่อเทียบกับการทานแคลเซียมต่ำ (400 มิลลิกรัม) ดังนั้น ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ประมาณ 1000-1200 มิลลิกรัม KUBETซึ่งสามารถได้รับจากผลิตภัณฑ์นมหรือแคลเซียมเสริม
ระมัดระวังการเพิ่มส่วนผสมที่มีกรดออกซาลิกสูงในกาแฟ
แพทย์ Xiao Jiejian เตือนว่า กาแฟเองไม่ทำให้เกิดปัญหานิ่วในไต แต่หากเติมส่วนผสมที่มีกรดออกซาลิกสูง เช่น ซอสช็อคโกแลต ผงโกโก้ (ในเครื่องดื่มมอคค่า) หรือ นมอัลมอนด์ ก็อาจทำให้ปริมาณกรดออกซาลิกในเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดนิ่วเพิ่มขึ้น
คำแนะนำสำหรับกลุ่มต่างๆ
แพทย์ Xiao Jiejian ได้แนะนำวิธีการดื่มกาแฟสำหรับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต:
- ผู้ที่มีประวัตินิ่วในไต:
ไม่จำเป็นต้องเลิกดื่มกาแฟทั้งหมด แต่ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ (อย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน) และทานแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ KUBETพร้อมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดออกซาลิกสูง (เช่น ผักโขม ถั่ว และชาเข้มข้น) - ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อกระดูกพรุนหรือการสูญเสียแคลเซียม:
การดื่มกาแฟในปริมาณพอเหมาะไม่ได้มีผลโดยตรงต่อกระดูก แต่ควรให้แน่ใจว่ามีการทานแคลเซียมและวิตามินดีในปริมาณที่เพียงพอ - ผู้ที่มีนิ่วในไตจากกรดยูริค:
กาแฟไม่ได้เป็นอาหารที่มีกรดยูริคสูง และสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไตจากกรดยูริคได้ KUBETรวมถึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกาต์
สรุป
การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตได้ โดยเฉพาะกาแฟดำหรือคาเฟ่ลาเต้ KUBETซึ่งมีกรดออกซาลิกในปริมาณต่ำและยังมีสารช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต แต่ควรระวังการเติมส่วนผสมที่มีกรดออกซาลิกสูง เช่น ช็อคโกแลตหรือผงโกโก้ เพื่อไม่ให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต
เนื้อหาที่น่าสนใจ: กระเทียมช่วยต้านการอักเสบ: การศึกษาชี้ว่าการกินกระเทียมบ่อยๆ สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่