สารบัญ
- หน่อไม้…ของอร่อยหน้าร้อน แต่ต้องกินให้ถูกวิธี
- พิวรีนในหน่อไม้: ปริมาณมากไปถึงอันตราย
- โรคเกาต์ไม่ใช่เพราะอาหารชนิดเดียว แต่เป็น “ยอดรวม”
- 6 กลุ่มเสี่ยง ที่ควร “หลีกเลี่ยงหรือจำกัด” การกินหน่อไม้
- สรุป: อร่อยได้ แต่ต้องรู้ลิมิต
- Q&A
หน่อไม้…ของอร่อยหน้าร้อน แต่ต้องกินให้ถูกวิธี
ในช่วงหน้าร้อน หน่อไม้สดใหม่ที่กำลังออกสู่ตลาด KUBET มักกลายเป็นวัตถุดิบยอดฮิตในเมนูมากมาย ไม่ว่าจะเป็นต้มหน่อไม้ แกงหน่อไม้ หรือผัดหน่อไม้แห้ง กลายเป็นของโปรดของใครหลายคน แต่ก็มีคำถามที่ชวนกังวลว่า “กินหน่อไม้แล้วทำให้โรคเกาต์กำเริบ จริงหรือไม่?“
แพทย์หญิง หวัง ถิงอี้ แพทย์โรคไตประจำโรงพยาบาลซินโหลว เมืองไถหนาน ไขข้อข้องใจว่า
หน่อไม้จัดเป็นอาหารที่มี “พิวรีนระดับปานกลางถึงต่ำ” KUBET หากรับประทานในปริมาณพอเหมาะก็สามารถกินได้ ไม่ได้ต้องงดเด็ดขาด
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ฤดูกาลที่หน่อไม้เป็นที่นิยม | หน้าร้อน |
เมนูยอดนิยมจากหน่อไม้ | – ต้มหน่อไม้ – แกงหน่อไม้ – ผัดหน่อไม้แห้ง |
ข้อกังวลของผู้บริโภค | หน่อไม้อาจทำให้โรคเกาต์กำเริบ |
ผู้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ | แพทย์หญิง หวัง ถิงอี้ |
ตำแหน่งของแพทย์ | แพทย์โรคไต โรงพยาบาลซินโหลว เมืองไถหนาน |
ข้อสรุปทางการแพทย์ | หน่อไม้มีพิวรีนในระดับ “ปานกลางถึงต่ำ” |
คำแนะนำในการบริโภค | สามารถกินได้ใน “ปริมาณพอเหมาะ” ไม่จำเป็นต้องงดเด็ดขาด |
พิวรีนในหน่อไม้: ปริมาณมากไปถึงอันตราย
แม้หน่อไม้จะดูไม่ใช่อาหารต้องห้าม แต่ ประเด็นอยู่ที่ “ปริมาณที่บริโภค”
จากข้อมูลที่ระบุในเพจเฟซบุ๊กของแพทย์หญิงหวัง ถิงอี้ KUBET กล่าวว่า:
- หน่อไม้ 100 กรัม มีพิวรีนประมาณ 63 มิลลิกรัม (อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง)
- แต่ใน 1 ถ้วยแกงหน่อไม้ทั่วไป อาจมีหน่อไม้หนัก 200–400 กรัม
- นั่นเท่ากับบริโภคพิวรีนไปแล้ว 126–252 มิลลิกรัม ซึ่งอยู่ในระดับ ค่อนข้างสูง
ยิ่งถ้ากินต่อเนื่องหลายชาม หรือกินควบกับผัดหน่อไม้แห้งอีกจาน KUBET ก็อาจสะสมพิวรีนในร่างกายจนเกินขีดจำกัด และทำให้ โรคเกาต์กำเริบ

โรคเกาต์ไม่ใช่เพราะอาหารชนิดเดียว แต่เป็น “ยอดรวม”
แพทย์หญิงหวัง ถิงอี้ เน้นว่า:
“โรคเกาต์ไม่ได้เกิดจากอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ KUBET แต่เกิดจากการสะสมของพิวรีนในร่างกายทั้งหมด”
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยเกาต์:
- ไม่จำเป็นต้องงดหน่อไม้ แต่ควร ควบคุมปริมาณให้เหมาะสม
- หากกินหน่อไม้แล้ว “ติดใจ” จนเผลอกิน 3 ถ้วยแกงหน่อไม้ KUBET และตามด้วยผัดหน่อไม้แห้งอีกจาน แบบนี้อาจมากเกินไป
6 กลุ่มเสี่ยง ที่ควร “หลีกเลี่ยงหรือจำกัด” การกินหน่อไม้
นอกจากผู้ป่วยเกาต์แล้ว ยังมีบางกลุ่มที่ไม่ควรกินหน่อไม้มากเกินไป KUBET เพราะหน่อไม้มีคุณสมบัติเย็น、มีกากใยสูง、กรดออกซาลิกและโพแทสเซียมสูง KUBET ซึ่งอาจส่งผลเสียได้
กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด:
- ผู้มีปัญหาทางเดินอาหาร: เช่น แผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบเรื้อรัง
- ผู้มีปัญหาไต: เช่น ไตอักเสบหรือไตเสื่อม
- ผู้มีนิ่ว: นิ่วในไต นิ่วในถุงน้ำดี หรือทางเดินปัสสาวะ
- เด็กในวัยเจริญเติบโต: ออกซาลิกในหน่อไม้อาจรบกวนการดูดซึมแคลเซียมและสังกะสี KUBET
- ผู้มีโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคผิวหนังเรื้อรัง
- ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ หรือม้ามพร่อง
สรุป: อร่อยได้ แต่ต้องรู้ลิมิต
- หน่อไม้ไม่ใช่อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยเกาต์
- สำคัญคือ “ปริมาณและความถี่” ในการบริโภค
- หากมีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง KUBET ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
Q&A
1. ถาม: หน่อไม้มีพิวรีนในระดับใด และทำไมจึงอาจกระตุ้นโรคเกาต์?
ตอบ: หน่อไม้มีพิวรีนในระดับปานกลางถึงต่ำ (ประมาณ 63 มก. ต่อ 100 กรัม) แต่หากบริโภคมาก เช่น 200–400 กรัมต่อมื้อ จะทำให้ได้รับพิวรีนเพิ่มขึ้นเป็น 126–252 มก. ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเกาต์มีอาการกำเริบได้
2. ถาม: ผู้ป่วยโรคเกาต์จำเป็นต้องงดหน่อไม้โดยสิ้นเชิงหรือไม่?
ตอบ: ไม่จำเป็นต้องงดโดยสิ้นเชิง แต่ควรจำกัดปริมาณให้เหมาะสม และไม่รับประทานติดต่อกันหลายมื้อ
3. ถาม: การเกิดโรคเกาต์เกี่ยวข้องกับอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้นหรือไม่?
ตอบ: ไม่ใช่ โรคเกาต์เกิดจากการสะสมพิวรีนโดยรวมในร่างกาย ไม่ได้เกิดจากอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ
4. ถาม: กลุ่มใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการบริโภคหน่อไม้?
ตอบ: ได้แก่ ผู้มีปัญหาไต, นิ่ว, ระบบย่อยอาหารอ่อนแอ, เด็กในวัยเจริญเติบโต, ผู้เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง, โรคผิวหนังเรื้อรัง และผู้มีแผลหรือโรคลำไส้
5. ถาม: สรุปคำแนะนำหลักเกี่ยวกับการกินหน่อไม้คืออะไร?
ตอบ: หน่อไม้สามารถรับประทานได้ แต่ควรรู้ลิมิต ควบคุมปริมาณและความถี่ โดยเฉพาะผู้ป่วยเกาต์หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
เนื้อหาที่น่าสนใจ: