กินอาหารสีดำ 14 ชนิด ช่วยปลูกผม! ถั่วดำ, แบล็กเบอร์รี่, งาดำ บำรุงรูขุมขน


สารบัญ

  1. งาดำ : ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เสริมสุขภาพรูขุมขน
  2. ผมสุขภาพดี ดกดำ เริ่มจากอาหารการกิน
  3. 14 อาหารสีดำเพื่อบำรุงเส้นผม
  4. ทำไมอาหารสีดำถึงดีต่อผม?
  5. ผมสวยสุขภาพดี เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต
  6. Q&A

งาดำ : ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เสริมสุขภาพรูขุมขน

งาดำอุดมไปด้วยวิตามินบีรวม สังกะสี เหล็ก แคลเซียม และสารเซซามิน ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ เสริมสร้างรูขุมขนให้แข็งแรง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ KUBET ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม


ประโยชน์ของงาดำ

สารอาหารสำคัญประโยชน์ต่อเส้นผม
วิตามินบีรวม, สังกะสี, เหล็ก, แคลเซียม, สารเซซามิน– กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ
– เสริมสร้างรูขุมขนให้แข็งแรง
– มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
– ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม

ผมสุขภาพดี ดกดำ เริ่มจากอาหารการกิน

ผมสุขภาพดี เงางาม และดกดำ เป็นเป้าหมายที่หลายคนปรารถนา KUBET นักโภชนาการเฉิงหานหยวู่ แชร์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Dietitian Han-Yu Chen” ว่า อาหารสีดำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผม KUBET เพราะอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพรูขุมขนและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ

14 อาหารสีดำเพื่อบำรุงเส้นผม

  • งาดำ : มีวิตามินบีรวม สังกะสี เหล็ก แคลเซียม และเซซามิน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและต้านอนุมูลอิสระ ลดการหลุดร่วงของผม
  • โกจิเบอร์รี่ดำ : อุดมด้วยแอนโธไซยานิน KUBET ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะและกระตุ้นรูขุมขน
  • ข้าวดำ : มีแอนโธไซยานินสูง ช่วยปกป้องรูขุมขนและชะลอความเสื่อมของผม
  • เห็ดหูหนูดำ : อุดมด้วยธาตุเหล็กและใยอาหาร KUBET ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มการดูดซึมสารอาหารที่รูขุมขน
  • แบล็กเบอร์รี่ : แอนโธไซยานินและวิตามินซี ช่วยเสริมความแข็งแรงของหนังศีรษะและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับปรุงความยืดหยุ่นของเส้นผม
  • องุ่นดำ : ฟลาโวนอยด์และเรสเวอราทรอล KUBET ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แนะนำให้กินทั้งเปลือกและเมล็ดเพื่อรับสารอาหารครบถ้วน
  • ถั่วดำ / น้ำนมถั่วดำ : โปรตีนจากพืชและไอโซฟลาโวนจากถั่วเหลือง ช่วยเสริมความแข็งแรงของรูขุมขน ลดปัญหาผมร่วง
  • อินทผลัมดำ : มีฟลาโวนอยด์และโพลีแซคคาไรด์ KUBET ช่วยบำรุงรูขุมขนและกระตุ้นการไหลเวียนของหนังศีรษะ
  • เห็ดหอม : อุดมด้วยซีลีเนียมและวิตามินดี ช่วยกระตุ้นเมแทบอลิซึมของรูขุมขน สนับสนุนการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • เมล็ดเจีย : มีกรดไขมันโอเมกา-3 ช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะ รักษาสภาพแวดล้อมของหนังศีรษะให้สุขภาพดี
  • สาหร่ายทะเล : มีไอโอดีนและแร่ธาตุต่างๆ ช่วยรักษาการทำงานของต่อมไทรอยด์ ส่งเสริมสุขภาพผมโดยอ้อม
  • พริกไทยดำ : สารพิเพอรีนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้อาหารส่งไปถึงหนังศีรษะได้ดีขึ้น
  • ช็อกโกแลตดำ : ฟลาโวนอยด์ช่วยขยายหลอดเลือด KUBET ปรับปรุงการไหลเวียน ส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังหนังศีรษะ
  • ชาแดง : มีโพลีฟีนอล คาเทชิน และฟลาโวนอยด์ KUBET ช่วยชะลอความแก่ของหนังศีรษะ รักษาความหนาแน่นของเส้นผม

ทำไมอาหารสีดำถึงดีต่อผม?

อาหารสีดำอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอลและแอนโธไซยานิน ช่วยปกป้องรูขุมขนจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะ และช่วยดูดซึมสารอาหาร ทำให้ผมมีสุขภาพดีและเงางาม

ผมสวยสุขภาพดี เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต

เฉิงหานหยวู่ เตือนว่า นอกจากการรับประทานอาหารสีดำอย่างเหมาะสมแล้ว การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการจัดการความเครียด KUBET ก็สำคัญมาก อย่าพึ่งพาแค่ผลิตภัณฑ์บำรุงผมภายนอก แต่ควรเริ่มดูแลจากภายในด้วยการกินอาหารที่ถูกต้อง นั่นคือทางลัดสู่เส้นผมสุขภาพดีอย่างแท้จริง

Q&A

1. งานวิจัยล่าสุดพบว่า การดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนวันละ 1 แก้ว มีผลอย่างไรต่อผู้หญิงในวัยสูงอายุ?
ตอบ: เพิ่มโอกาสแก่ชราที่มีสุขภาพดีขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ


2. คำว่า “แก่ชราที่มีสุขภาพดี” ตามนิยามของงานวิจัย หมายถึงอะไร?
ตอบ: หมายถึงการไม่มีโรคเรื้อรังร้ายแรง เคลื่อนไหวสะดวก ดูแลตนเองได้ อารมณ์มั่นคง ความคิดแจ่มชัด และสุขภาพกาย-ใจโดยรวมดี


3. เครื่องดื่มชนิดใดที่งานวิจัยพบว่ามีผลเสียต่อโอกาสในการแก่ชราที่มีสุขภาพดี?
ตอบ: โค้กทั้งแบบมีน้ำตาลและไม่มีน้ำตาล ซึ่งลดโอกาสแก่ชราที่มีสุขภาพดีลง 20-26%


4. เพื่อให้ได้ประโยชน์จากกาแฟสูงสุด ควรดื่มอย่างไร?
ตอบ: ควรดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีน 1.5-3 แก้วต่อวัน ไม่เติมน้ำตาลหรือครีมเทียม ดื่มในช่วงเช้าหรือก่อนเที่ยง


5. งานวิจัยนี้อ้างอิงข้อมูลจากโครงการใด และดำเนินการศึกษานานเท่าใด?
ตอบ: อ้างอิงจากโครงการ Nurses’ Health Study โดยติดตามผู้หญิงเกือบ 50,000 คน เป็นเวลานานถึง 30 ปี (ตั้งแต่ปี 1984 ถึง 2016)



เนื้อหาที่น่าสนใจ: