หม่า ซี ผิงเผยประสบการณ์สูญเสียความทรงจำ 10 ปี ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเกี่ยวข้องกับภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า

สารบัญ

  1. อดีตนักวิจารณ์ข่าวชื่อดังเปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก
  2. แพทย์ชี้ความเครียดและอารมณ์ส่งผลโดยตรงต่อการเสื่อมของความจำ
  3. หม่า ซี ผิง ยืนยันยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมเผยอาการและประสบการณ์ส่วนตัว
  4. แนวทางฟื้นฟูความจำด้วยตนเองของหม่า ซี ผิง
  5. สุขภาพร่างกายมีผลต่อสมองโดยตรง
  6. แพทย์แนะรู้จักภาวะ TGA ความจำเสื่อมชั่วคราวแบบเฉียบพลัน
  7. สรุป
  8. Q&A

อดีตนักวิจารณ์ข่าวชื่อดังเปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก

หม่า ซี ผิง นักวิจารณ์ข่าวและบุคคลสาธารณะชื่อดังของไต้หวัน ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กเมื่อค่ำวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา KUBETว่าเขาประสบภาวะความจำเสื่อมแบบค่อยเป็นค่อยไปมาตลอดระยะเวลา 10 ปี โดยระบุชัดว่า “ผมเป็นความจำเสื่อม ไม่ใช่ภาวะสมองเสื่อม KUBETดังนั้นทุกอย่างยังโอเคอยู่” เขาย้อนเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญช่วงหนึ่งของอาชีพKUBET ที่ขณะออกรายการสดกลับจำชื่อของนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ทำให้รู้ตัวว่าควรเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ทันที

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อหม่า ซี ผิง (Ma Xi Ping)
อาชีพนักวิจารณ์ข่าว / บุคคลสาธารณะ
วันที่โพสต์เฟซบุ๊ก16 กรกฎาคม (ช่วงค่ำ)
อาการที่เปิดเผยความจำเสื่อมแบบค่อยเป็นค่อยไป (Progressive Amnesia)
ระยะเวลาที่เป็นประมาณ 10 ปี
ข้อความที่ระบุชัด“ผมเป็นความจำเสื่อม ไม่ใช่ภาวะสมองเสื่อม ดังนั้นทุกอย่างยังโอเคอยู่”
เหตุการณ์ที่เริ่มรู้ตัวจำชื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้ระหว่างออกรายการสด
การตอบสนองตัดสินใจเข้ารับการตรวจและรักษาทางการแพทย์

แพทย์ชี้ความเครียดและอารมณ์ส่งผลโดยตรงต่อการเสื่อมของความจำ

จากข้อมูลในวารสารวิชาการนานาชาติ Neuropsychiatric Disease & Treatment ระบุว่า ภาวะความจำเสื่อมแบบชั่วคราว (Transient Amnesia) อาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะขาดเลือดเฉียบพลัน ไมเกรน ภาวะขาดออกซิเจน และอาการหลงลืมทางจิตใจ KUBETโดยเฉพาะความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าจะยิ่งกระตุ้นให้การสูญเสียความจำรุนแรงมากขึ้น

หม่า ซี ผิง ยืนยันยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมเผยอาการและประสบการณ์ส่วนตัว

แม้จะประสบภาวะความจำเสื่อม หม่า ซีผิง ยืนยันว่าตนยังสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ โดยไม่ได้ลืมทุกอย่าง เขายังสามารถจำข้อมูลจากการอ่านก่อนขึ้นรายการได้อย่างแม่นยำ KUBETรวมถึงทักษะในการเดินทางที่ยังคงดีเยี่ยม เขายังแบ่งปันเรื่องราวขำขันว่า มักจำชื่อซูเปอร์มาร์เก็ต ไต้รุ่นฟา และ เจียเล่อฝู – Carrefour ไม่ได้ แต่กลับจำชื่อ ที่เลิกกิจการไปแล้วได้ชัดเจน KUBET ทำให้เวลาจะออกจากบ้านมักบอกภรรยาและลูกว่า สร้างเสียงหัวเราะให้กับครอบครัวเสมอ

แนวทางฟื้นฟูความจำด้วยตนเองของหม่า ซี ผิง

หม่า ซี ผิง ได้ศึกษาเรื่องความจำอย่างจริงจังในช่วงสิบปีที่ผ่านมา KUBET และได้สรุปแนวทางป้องกันและฟื้นฟูความจำด้วยตนเอง ดังนี้:

  • กระตุ้นสมอง ด้วยกิจกรรมใช้ความคิด เช่น อ่านหนังสือ ค้นคว้า
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • โภชนาการที่ดี เน้นอาหารสุขภาพ
  • มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เพื่อไม่ให้จิตใจจมอยู่กับความเครียด
  • เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้สมองเฉื่อยชา

เขายังหลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับโดยหันมาใช้กลิ่นอโรมาหรือสมุนไพรแทน KUBET และไม่ยอมรับการวางยาสลบโดยไม่จำเป็น เพราะกังวลว่าอาจทำให้ภาวะความจำเสื่อมแย่ลง

สุขภาพร่างกายมีผลต่อสมองโดยตรง

หม่า ซี ผิง เผยว่าเริ่มดูแลสุขภาพอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการควบคุมระดับคอเลสเตอรอล เพราะระดับคอเลสเตอรอลที่ต่ำเกินไปอาจส่งผลต่อการทำงานของเซลล์สมอง KUBET เขาจึงเริ่มรับประทานยาควบคุมอย่างเหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์

แพทย์แนะรู้จักภาวะ TGA ความจำเสื่อมชั่วคราวแบบเฉียบพลัน

จากข้อมูลของสมาคมโรคหลอดเลือดสมองแห่งไต้หวัน (Taiwan Stroke Society) ระบุว่า ภาวะ “ความจำเสื่อมทั่วสมองแบบชั่วคราว” (Transient Global Amnesia – TGA) เป็นอาการทางระบบประสาทที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่คาดว่าเกี่ยวข้องกับภาวะขาดเลือดในสมอง ผู้ป่วยจะมีอาการ “ลืมเรื่องใหม่” (Anterograde Amnesia) และ “ลืมเรื่องเก่าแบบเฉียบพลัน” (Retrograde Amnesia) ซึ่งมักทำให้ผู้ป่วยถามคำถามซ้ำ ๆ หรือจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าไม่นาน

สรุป

กรณีของหม่า ซี ผิง ถือเป็นกรณีศึกษาที่มีคุณค่า เขาไม่เพียงเผชิญหน้ากับภาวะความจำเสื่อมด้วยสติและความเข้าใจ แต่ยังพยายามเป็นตัวอย่างให้แก่สังคม KUBET ผ่านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาสุขภาพจิตหรือความจำได้เรียนรู้และรับมืออย่างมีสติและเป็นระบบต่อไป

Q&A

1. หม่า ซี ผิง เผชิญกับภาวะความจำเสื่อมแบบใด และเขาแยกความแตกต่างกับภาวะสมองเสื่อมอย่างไร?
หม่า ซี ผิง ประสบภาวะความจำเสื่อมแบบค่อยเป็นค่อยไปมาเป็นเวลา 10 ปี โดยยืนยันว่าเขาเป็น “ความจำเสื่อม” ไม่ใช่ “สมองเสื่อม” ซึ่งหมายความว่าเขายังมีสติและความสามารถในการใช้ชีวิตได้ปกติ

2. ปัจจัยใดบ้างที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอาจส่งผลให้ความจำเสื่อมรุนแรงขึ้น?
ความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการเสื่อมของความจำ และสามารถทำให้อาการความจำเสื่อมรุนแรงมากขึ้นได้

3. หม่า ซี ผิง ใช้แนวทางใดในการป้องกันและฟื้นฟูความจำของตัวเอง?
เขาเน้นกิจกรรมกระตุ้นสมอง เช่น การอ่านหนังสือ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารสุขภาพ มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับและวางยาสลบโดยไม่จำเป็น

4. ภาวะ “ความจำเสื่อมทั่วสมองแบบชั่วคราว” (Transient Global Amnesia – TGA) คืออะไร?
TGA เป็นภาวะความจำเสื่อมชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะลืมเรื่องใหม่และเรื่องเก่าแบบทันที อาจถามคำถามซ้ำๆ และมักเกิดจากภาวะขาดเลือดในสมอง แม้สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ชัดเจน

5. ข้อคิดหรือแรงบันดาลใจที่หม่า ซี ผิงอยากส่งต่อถึงคนที่เผชิญภาวะความจำเสื่อมหรือปัญหาสุขภาพจิตคืออะไร?
เขาอยากให้ผู้เผชิญปัญหามีสติ เข้าใจและรับมือกับอาการอย่างเป็นระบบ โดยการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและไม่ยอมแพ้ พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ที่มีปัญหาเดียวกัน






เนื้อหาที่น่าสนใจ: